Bim100 มะเร็ง เนื้องอก เนื้อร้าย ซีสต์ กับข้อมูลที่ต้องรู้
วิวัฒนาการล่าสุดของนักวิทยาศาสตร์ไทยเกี่ยวกับการสร้างสมดุลของระบบภูมิคุ้มกัน BIM
คณะนักวิจัย Operation BIM ซึ่งประกอบด้วย
1. รศ.ดร.เสาวลักษณ์ พงษ์ไพจิตร
2. รศ.ดร.วิลาวัลย์ มหาบุษราคัม
3. ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา
4. รศ.ดร.อำไพ ปั้นทอง
5. รศ.ดร.ศิริวรรณ องค์ไชย
ได้ทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ Operation Bim ต่อระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้สามารถอธิบายประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์โอเปอเรชั่นบิมในการสร้างสมดุลของภูมิคุ้มกันตามหลักภูมิคุ้มกันวิทยาล่าสุด ในบทความ Bim100มะเร็ง เนื้องอก เนื้อร้าย ซีสต์ นี้คุณจะได้พบกับภูมิคุ้มกันที่สมดุลกับการดูแลมะเร็ง เนื้องอก เนื้อร้าย ซีสต์
มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เซลล์เจริญ (แบ่งตัว) อย่างผิดปกติ การที่เซลล์เปลี่ยนสภาพไปจากปกติจึงไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของร่างกายในเรื่องวัฏจักรการแ่บ่งตัว ทำให้เกิดการรุกรานเนื้อเยื่อข้างเคียง หรืออาจแพร่กระจายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกายซึ่งแตกต่างจากเนื้องอกธรรมดาที่ไม่รุกราน หรือแพร่กระจาย และขนาดจะไม่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มะเร็งมีสาเหตุมาจากยีนซึ่งควบคุมการทำงานของเซลล์ผิดปกติไป โดยอาจเป็นผลมาจากสารก่อมะเร็ง เช่น ยาสูบ ควัน รังสี สารเคมี หรือเชื้อโรค นอกจากนี้ความอ้วนยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งมดลูก มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งที่ไต มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งทรวงอก มะเร็งไขกระดูก มะเร็งตับอ่อน มะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดนอน-ฮอดจ์กิ้นและมะเร็งรังไข่ จากสถิติของผู้ป่วยมะเร็งในประเทศไทยเมื่อจำแนกตามเพศพบว่า เพศชายเสียชีวิตจากมะเร็งปอดมากที่สุด รองลงมาคือ มะเร็งตับ ส่วนเพศหญิงเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกมากที่สุด รองลงมาคือมะเร็งเต้านม โดยปกติมะเร็งทุกชนิดมีลักษณะเป็นก้อนเนื้อ ยกเว้นมะเร็งเม็ดเลือดขาว นักภูมิคุ้มกันวิทยาอเมริกันพบว่า การกระตุ้น Th1 และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Th17 ทำให้เม็ดเลือดขาวเพชฌฆาตจัดการกับเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีความพยายามเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาวิธีการต่างๆ ที่จะนำ Th17 มาเพื่อใช้รักษามะเร็ง แต่จนบัดนี้ยังไม่ประสบความสำเร็จในการกำหนดวิธีการมาตรฐานที่ได้ผล และปลอดภัย
คณะนักวิจัย Operation Bim จากศูนย์วิจัยและพัฒนามังคุดไทยได้วิจัยและัพัฒนาสารเสริมประสิทธิภาพจากสาร GM-1 ในมังคุด และสารธรรมชาติจากงาดำ ถั่วเหลือง ฝรั่ง และบัวบก จนได้แคปซูลเสริมอาหาร ที่พิสูจน์โดยศูนย์วิจัยเทคโนโลยีชีวการแพทย์แล้วว่าสามารถกระตุ้นการทำงานของ Th1 ได้ชัดเจน และกระตุ้น Th17 เพิ่มขึ้นได้หลายเท่า และแพทย์จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ได้พิสูจน์แล้วว่า สารเสริมประสิทธิภาพนี้สามารถเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้ายที่ไม่ตอบสนองต่อเคมีบำบัดแล้วอย่างน้อย 2 สูตรได้อย่างปลอดภัยและไร้ผลข้างเคียง “การสร้างภูมิคุ้มกันที่สมดุล เป็นมิติใหม่ของการดูแลสุขภาพ”
Bim100 มะเร็ง (Cancer) แชร์ประสบการณ์ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ Operation bim
คุณสุภัสสรา เอมเอก ผู้มีปัญหามะเร็งต่อมน้ำเหลือง ลามไปที่กระดูกต้นขา
เป็นมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองระยะ 4 ได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด 8 คอร์ส ต่อมาลุกลามไปที่กระดูกขาขวา ทำให้กระดูกขาหัก มีรอยดำที่กระดูกกะโหลกศีรษะ, มีก้อนที่ไตด้วย แต่ไม่ได้ตัดชิ้นเนื้อตรวจจึงยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใช่เป็นก้อนมะเร็งหรือไม่ แต่ก้อนนี้หายไปหลังให้เคมีบำบัด ต่อมารักษาอาการที่ขาขวาโดยครั้งที่หนึ่งด้วยการผ่าตัดใส่เหล็กที่ขาขวา และฉายแสงตรงบริเวณที่ผ่าตัดขาเพื่อกระตุ้นให้กระดูกงอก แต่กลับไม่งอก ยังคงมีช่องว่างของกระดูกอยู่ ต่อมาครั้งที่สองจึงผ่าตัดกระดูกขาขวาอีกครั้งเพื่อปลูกถ่ายกระดูก แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จ นั่นก็คือกระดูกที่มาปลูกใหม่ยังไม่ติดกัน จึงมีอาการปวดขาขวา ยิ่งลงน้ำหนักตอนเดินยิ่งปวด ร่างกายซูบผอม อ่อนเพลีย เดินโดยอาศัยไม้ค้ำยัน และมีความวิตกกังวลอยู่ 2 เรื่องคือ 1.ถึงแม้ว่ามีโอกาสหาย 90% แต่ก็มีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ถึง 50% 2.กำลังวางแผนที่จะผ่าตัดที่ขาซ้ำอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 เพื่อที่จะใส่วัสดุประเภทซีเมนต์เพื่ิอปิดช่องว่างของกระดูก ตั้งแต่ตุลาคม 53-กุมภาพันธ์ 54 ดูแลตัวเองตามแนวการดีท็อกซ์ด้วยอาหารและนั่งสมาธิ จนมีเพื่อนที่เป็นมะเร็งตับที่ *BIM แล้วผลตรวจสุขภาพดีขึ้นเรื่อยๆมาแนะนำให้เริ่ม *BIM เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 54 พอได้ 2 สัปดาห์ สังเกตเห็นว่าผิวพรรณมีการเปลี่ยนแปลง รู้สึกสดชื่น กระชุ่มกระชวย ไม่เพลีย นอนหลับดี เมื่อครบ 3 เดือนเอกซเรย์กระดูกขาตรงที่มีช่องว่าง เริ่มมีเงาให้เห็นรางๆ แสดงว่าเริ่มมีกระดูกงอก พอครบ 6 เดือน เอกซเรย์กระดูกขา กระดูกงอกเพิ่มกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ครบ 1 ปี (15 พ.ค.55) ผลการเอกซเรย์กระดูกขาชี้ว่า กระดูกติดดีแล้ว ไม่มีช่องว่าง ซึ่งก็หมายความว่าเซลล์มะเร็งที่กระดูกถูกยับยั้งไปแล้ว กระดูกจึงสามารถสร้างเชื่อมติดกันได้จนแพทย์ขยายเวลานัดเพื่อติดตามเรื่องกระดูกเป็นปีละ 1 ครั้ง และน้ำหนักเพิ่มขึ้น 3 ก.ก. (จาก 51 เป็น 54 ก.ก.) อาการปวดขาลดลง เดินได้เกือบเหมือนเดิม ไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้ว แม้ว่าเดินกะเผลกอยู่บ้าง มีปวดขาบ้างคงเกิดจากโลหะที่อยู่ข้างในอาจเสียดสี หรือทับเนื้ออยู่บ้าง แต่ก็พอใจแล้วค่ะ ตลอดเวลาที่ (BIM ไม่มีผลข้างเคียงแต่อย่างใด รู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น สดชื่น ผิวพรรณดีขึ้นมีน้ำมีนวล ดูไม่เหมือนคนป่วยสักเท่าไหร่ ไม่มีความวิตกกังวลว่าจะกลับมาเป็นซ้ำ เพราะเชื่อมั่น *BIM ภูมิคุ้มกันที่สมดุล ถ้านับว่าตอนที่เริ่มรักษาเป็นศูนย์ ในวันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นเป็น 98% ค่ะ (น้ำมังคุด 1 ซอง, สีเหลือง กลางวัน 2 แคปซูล เย็น 2 แคปซูล และก่อนนอน 2 แคปซูล)
คุณจันทร์จิรา พลันเค็ทท์ ผู้มีปัญหามะเร็งปากมดลูก ลามไปต่อมน้ำเหลือง และปอด
สุขภาพปกติดีไม่มีอาการใดๆ จนกระทั่งไปตรวจสุขภาพประจำปี 50 ถึงพบว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก รักษาด้วยการให้เคมีบำบัด 6 ครั้ง, ฉายรังสี 33 ครั้ง, ใส่แร่ 4 ครั้ง และตัดห่วง (ปาดเนื้อบางส่วนออก) จนตรวจไม่พบมะเร็ง กระทั่งเดือนธันวาคม ปี 54 รู้สึกปวดแถวๆซี่โครงซ้าย ไปตรวจด้วย MRI พบว่ามีจุดดำที่ปอดข้างซ้ายขนาด 3 ซ.ม. และต่อมน้ำเหลืองโต 7 แห่ง แสดงว่ามะเร็งลามไปต่อมน้ำเหลือง และปอดแล้ว จึงวางแผนการรักษามะเร็งด้วยการฉายรังสี 33 ครั้ง แต่ฉายได้เพียงแค่ 10 ครั้งก็มีอาการข้างเคียงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียนทุกวัน จึงตัดสินใจหยุดฉายรังสี และวางแผนรักษาใหม่ด้วยการให้เคมีบำบัด 6 ครัง พอทำไปได้ 3 ครั้งก็ทนอาการข้างเคียงไม่ไหว ทั้งผมขาด ผมร่วงจนศีรษะล้านเลี่ยนไม่เหลือตอของเส้นผม อ่อนเพลีย ไม่มีแรง คลื่นไส้ ทานข้าวไม่ได้ ร่างกายซูบผอม น้ำหนักตัวอยู่ที่ 46-47 ก.ก. รู้สึกร้อนเหมือนมีไฟมาจี้ที่กลางลิ้น ต้องทานไอศกรีมวันละ 5-6 แท่ง และใช้น้ำแข็งมาถูที่ลิ้นให้คลายความร้อน อ้าปากเป่าลม และอมน้ำเย็นแล้วบ้วนทิ้งบ้าง นอนบนเตียงจะรู้สึกเวียนศีรษะและอาเจียน ทำให้ต้องนอนลงกับพื้นแทน แต่ก็หลับไม่สนิท เพียงแต่งีบหลับเป็นพักๆ จากอาการข้างเคียงดังกล่าวทำให้กลัวจะเสียชีวิตก่อนที่จะรักษาได้ครบตามแผนที่วางเอาไว้ จึงตัดสินใจหยุดเคมีบำบัดเมื่อเดือนมิถุนายนปี 55 ต่อมาเดือนสิงหาคม คุณลุงในหมู่บ้านแนะนำให้เริ่ม *BIM ได้ 3 สัปดาห์ผู้คนรอบข้างหรือคนที่เคยมาเยี่ยมเยีนรักมาทัก “ไปทำหน้ามาหรือ” ดูเปล่งปลั่งขึ้น ผิวดี” เรารู้สึกว่าข้างในร่างกายดีขึ้นมาก เคยขับรถไปทำธุระออกจากบ้านตั้งแต่ตี 2 กว่าจะได้กลับเข้าบ้านก็ 2 ทุ่ม ทั้งวันไม่ได้งีบหลับเลยก็ยังไม่เพลีย พอใครๆเห็นว่าเราแข็งแรงขึ้น ดูเปลี่ยนไปก็มาถามว่าไปทำอะไรมา แนนจึงแนะนำคนอื่นๆให้รู้จักกับ *BIM บ้างเช่น คนที่มีปัญหามะเร็งปากมดลูก, SLE, ภูมิแพ้, เบาหวาน คุณแม่ที่เป็นข้อเข่า และสามีชาวแคนาดาที่เป็นโรคหัวใจ ปัจจุบันสุขภาพร่างกายแข็งแรงดี มีความประทับใจและมั่นใจบิมมากค่ะ (น้ำมังคุด 1 ซอง, สีเขียว กลางวัน 2 แคปซูล เย็น 2 แคปซูล และก่อนนอน 2 แคปซูล)
คุณสุเทพ แหวนทอง ผู้มีปัญหามะเร็งต่อมลูกหมาก ลามไปที่กระดูกสันหลัง
เริ่มจากร่างกายอ่อนเพลีย ปัสสาวะบ่อยครั้ง แต่กะปริดกระปรอย บางครั้งมีเลือดปนออกมา เบื่ออาหาร ปวดเมื่อยตามข้อ ภายใน 2 เดือนน้ำหนักลดลงไป 20 ก.ก. เมื่อต้นปี 54 ไปตรวจร่างกายหลายครั้งใช้เวลาอยู่ 2 เดือน จนกระทั่งพบว่าดัชนีบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก (PSA) สูงมากอยู่ที่ 100 ng/ml (คนปกติต้องน้อยกว่า 4.0 ng/ml) จึงตัดเนื้อเยื่อต่อมลูกหมากไปตรวจ ปรากฎว่าเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก แพทย์จึงทำการผ่าตัดมะเร็งออกไปเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2554 และเริ่มเดินไม่ได้ในเย็นวันนั้น ต่อมาตรวจ MRI พบว่ามะเร็งเริ่มลามไปที่กระดูกสันหลัง และอาจเป็นอัมพาตเดินไม่ได้ เพราะมะเร็งลามไปทำลายกระดูกสันหลังทำให้ทรุดไปทับเส้นประสาทที่หลัง หลังจากที่แผลผ่าตัดหายดีแล้ว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2554 จึงทำการฉายแสงติดต่อกัน 10 วัน ระหว่างที่นอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เป็นอัมพาตครึ่งซีก ร่างกายท่อนล่างตั้งแต่เอวจนถึงปลายเท้าจะกระดิกกระเดี้ยวตัวไม่ได้ เดินไม่ได้ เริ่ม *BIM ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2554 พอเดือน มีนาคม 2555 (ประมาณ 11 เดือน) ค่า PSA อยู่ที่ 0.82 ng/ml สุขภาพโดยรวมทั้งหมดดีขึ้นถึง 70% วันที่ 6 สิงหาคม 2555 (ประมาณ 16 เดือน) สุขภาพแข็งแรงดี คุณภาพชีวิตที่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เริ่มรักษาครั้งแรกเดินไม่ได้เลย แต่ตอนนี้ช่วยเหลือตัวเองได้ครับ เข้าห้องน้ำ ทานอาหารเองได้ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นให้เดือดร้อน ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงเดินระยะใกล้ได้ สามารถนั่งนานๆได้
ปัจจุบันเดือนเม.ย. 56 ตลอด 2 ปีที่ *BIM ค่า PSA อยู่ที่ 1 กว่า อยู่ในเกณฑ์ปกติมาตลอด และผลเอกซเรย์กระดูกสันหลังพบว่าสมบูรณ์ดี บิดตัวได้ตามปกติ ถ้าเดินภายในบ้านหรือระยะทางใกล้แทบไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้วครับ (น้ำมังคุด 1 ซอง, สีเขียว กลางวัน 3 แคปซูล เย็น 3 แคปซูล และก่อนนอน 3 แคปซูล)
*BIM คือ Balancing Immunity ภูมิคุ้มกันที่สมดุล
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และระยะเวลาที่ได้ผลขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
คุณรัตนพร ศรีเพ็ญ ผู้มีปัญหามะเร็งเต้านมลามไปต่อมน้ำเหลือง
เดือน ธ.ค. 53 ไปตรวจเมมโมแกรมจึงทราบว่าเป็นมะเร็งเต้านมขั้น 3B กำลังลามไปต่อมน้ำเหลืองต้นปี 54 เริ่มรักษาด้วยการให้เคโม 6 ครั้ง แล้วจึงผ่าตัดออกไป และต่อด้วยการให้เคโม 4 ครั้ง อีกทั้งฉายแสงอยู่ 1 เดือนจนเสร็จสิ้นการรักษาเมื่อเดือน ก.พ. 55 จนเดือนเม.ย. 55 มีเพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกันมาก และเป็นมะเร็งเหมือนกันเคยใช้ *BIM มา 1 ปีกว่าแล้ว มาบอกเรื่อง *BIM ให้รู้จัก เราจึงมาไตร่ตรองดูพบว่า
1. มีความน่าเชื่อถือของทีมนักวิจัย
2. เพื่อนรุ่นพี่ที่แนะนำมาก็เป็นคนเชื่อถือได้
3. มีโอกาสเข้ามาฟังการบรรยายจาก ศ.ดร.พิเชษฐ์อยู่หลายครั้งจนเข้าใจ
4. เริ่ม *BIM เช้า 2 ก่อนนอน 2 มานาน 6 เดือน สิ่งที่สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจาก *BIM คือ ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านกลับมาก็ไมเหนื่อย ไม่อ่อนเพลีย หลับสนิทดีตื่นเช้ามาก็สดชื่น และเดินขึ้นบันไดสูงๆ ได้โดยไม่ต้องพักเหนื่อยครึ่งทางเหมือนแต่ก่อน เคยตึงตามข้อนิ้วมือแล้วรู้สึกเจ็บ กดตามข้อนิ้วก็จะเจ็บ และแดง ต้องพยายามกำมือ หลังจาก *BIM แล้วอาการค่อยๆ ดีขึ้นจนตอนนี้เรียกว่าหายไปเลยค่ะคนรอบข้างต่างก็ทักว่าหน้าตาดูสดในกว่าเดิม ผิวใส ดูดีกว่าตอนที่ยังไม่เป็นมะเร็งเสียอีก ขนาดคุณหมอเองก็ยังทักด้วยค่ะ ผลตรวจไขมันโคเลสเตอรอลก็ลดลง จนแพทย์จะไม่ให้ยาลดไขมันแล้ว ผลตรวจเรื่องตับ ไต และผลของการติดตามเรื่องมะเร็งก็ดีขึ้น เสียดายเหมือนกันที่ดิฉันรู้จัก *BIM ช้าไปหน่อยค่ะ หลังจากที่ตัวดิฉันเองมั่นใจ และประทับใจใน *BIM แล้วยังได้แนะนำคนอื่น ให้รู้จักกับ *BIM เช่นเดียวกัน
คุณพัจนา พรรณบัวหลวง ผู้มีความผิดปกติที่เต้านม เนื้องอกที่ลิ้นปี่ และหูดติ่งเนื้อ
เต้านมข้างซ้ายหัวนมบุ๋มเข้าไป เนื้อที่เต้านมแข็งมาก รู้สึกปวด แต่ไม่มีน้ำไหลออกมา และมีก้อนเนื้องอกแข็งนูนขึ้นมาเหนือลิ้นปี่ ขนาดใหญ่กว่าหัวแม่มือ พอดีคุณกัลยาณีแนะนำให้รู้จัก *BIM ดิฉันพบว่าเต้าที่เคยแข็งก็นิ่มลง เหลือเพียงไตแข็งขนาดเท่าหัวแม่มือ รู้สึกยังเจ็บอยู่บ้าง ส่วนหัวนมก็เริ่มโผล่ ปัจจุบัน *BIM มา 5 เดือน หูดติ่งเนื้อเล็กๆ ตามผิวหนังตามหน้าขาไม่มี ส่วนก้อนเนื้องอกที่เหนือลิ้นปี่ยุบลงไป และก้อนแข็งเป็นไตที่เต้านมมีขนาดเล็กลงจนใกล้ปกติ ดิฉันรู้สึกเลยว่า *BIM ดีมากต้องยอมรับจริงๆ ค่ะ
คุณกัลยาณี เตชะวันโต ผู้มีปัญหาซีสต์ที่ทรวงอก
ตรวจพบซีสต์ขนาดเล็ก 1 ก้อนที่ทรวงอกข้างซ้าย มีขนาดเท่าเดิมมานานหลายปี บังเอิญว่าไปรู้จัก *BIM จากญาติที่ต่างจังหวัด จึงลองดู พอครบกำหนดไปตรวจ ปรากฏว่าไม่พบซีสต์แล้วดิฉันรู้สึกประทับใจมาก และให้ลูกสาวหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตจนรู้จักรายการ BIM100 ตั้งแต่นั้นมาดิฉันได้แนะนำให้ลูกสาวลูกเขย และคนอื่นที่มีปัญหาสุขภาพต่างๆ ได้รู้จักกับ *BIM เช่นกัน พอบอกไปแล้วใครเชื่อก็เชื่อ ใครไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร เพราะเราพิสูจน์มาแล้วค่ะ
อาจารย์ลดาวดี วนวิทย์ ผู้มีปัญหาเนื้องอก
ดิฉันไปตรวจสุขภาพประจำปี ทำให้ทราบว่าดิฉันมีก้อนเนื้องอกที่มดลูกและมีก้อนถุงน้ำที่รังไข่ขวาและมีอาการผิดปกติอื่นอีกซึ่งเพิ่งเริ่ม สำหรับดิฉันแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่มาก กลัวมากแข้งขาอ่อนเลย เพราะดิฉันเป็นคนที่ชอบวิตกกังวล ชอบคิดไปต่างๆ นานา ประกอบกับญาติๆ มีประวัติว่าเคยมีก้อนเนื้อร้าย เราก็ยิ่งใจเสีย ใจวูบไปอยู่ที่ตาตุ่ม ภูมิคุ้มกันเราตกเลย ทั้งที่ยังไม่เป็นอะไรมาก ในเวลานั้นอารมณ์ไม่ดีเลยเดินไปเดินมาอย่างคลุ้มคลั่ง พอดีดิฉันสึกถึงอาจารย์พิเชษฐ์ขึ้นได้จึงไปขอคำปรึกษาจากอาจารย์ ซึ่งท่านบอกว่า “เรื่องเล็กๆ *BIM ต่อเนื่องสัก 3 เดือน” ดิฉันปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะดิฉันกลัวจริงๆ แต่มีความศรัทธา เชื่อมั่นในอาจารย์ ท่านไม่มีทางมาหลอกเรามีแต่ความหวังดีที่มอบให้หลัง *BIM ได้ 4 เดือนไปตรวจร่างกายปรากฏว่าปัญหาที่มีหายไปเลย ปกติดีทุกอย่าง ดิฉันรู้สึกขอบคุณท่านอาจารย์พิเชษฐ์มาก เป็นเพราะน้ำเสียงที่อบอุ่น และกำลังใจที่ท่านมอบให้ในวันนั้น ทำให้ดิฉันแข็งแรงเช่นในวันนี้ค่ะ
คุณจีรกิตติ ตังคธัช ผู้มีปัญหามะเร็งตับ
ก่อนผมเป็นมะเร็ง ผมทำงานเยอะกินเหล้าเยอะ ใช้ร่างกายและสมองอย่างหนักใครเตือนก็ไม่เชื่อ มันมีความสุข บางครั้งคิดว่าการกินเหล้าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะควบคู่กับอาชีพของผม ผมค้าขายทั่วโลก คืนหนึ่งดื่มหนัก เพลียมาก ผมกลัวว่าจะเป็นอะไรไปรึเปล่า ผมจึงไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลพบว่า ค่า AFP หรือดัชนีบ่งชี้มะเร็งตับขึ้นไปเป็น 100 ng/ml (ค่าปกติอยู่ที่ 0-10 ng/ml) จึงต้องทำ Ultrasound และ MRI ร่วมด้วยพบก้อนเนื้อที่ตับ และเป็นเนื้อร้าย แพทย์ระบุว่า “โชคดีที่รู้ตัวก่อนถ้าช้ากว่านี้อีกสัก 2-3 เดือนอาจเป็นหักเลย” เมื่อ ก.พ. 2552 ไปผ่าก้อนเนื้อที่ตับขนาด 2.4×1.8×3 ซ.ม. ออกไป แพทย์แจ้งว่าหลังจากผ่าตัดแล้วมั่นใจว่ามีโอกาสอยู่ต่อได้อีก 3 ปี แต่ต้องนัดมาตรวจเลือด CT scan, และ MRI ทุกๆ 3 เดือน หลังผ่าตัด อาจารย์พิเชษฐ์แนะนำให้ *BIM พบว่าร่างกายแข็งแรงขึ้นดีกว่าตอนก่อนผ่าตัดเสียอีก ใครเห็นต่างดูไม่ออกว่าเป็นมะเร็งเอาเป็นว่าเคยเป็นดีกว่าครับ เพราะผลตรวจปกติดี ค่าAFPอยู่ที่ 2-3 ng/ml ปัจจุบันผม *BIM และอยู่มานาน 5ปี นอกจากนี้ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่นอนดึก ไม่เครียด เรื่องอาหารลูกๆ ให้ทานแต่ผักกับปลา ห้ามของทอด ของหวาน แต่เรื่องแรกที่สำคัญของทุกคนที่เป็นมะเร็งคือจิตใจต้องไม่กลัว และกำลังใจต้องดี
คุณธิรดา บัณฑิตานุกูล ผู้มีปัญหามะเร็งหลังโพรงจมูก
ปลายพ.ย.54 คัดจมูกซ้ายหายใจไม่ออก แรกๆตรวจว่าเป็นไซนัสอักเสบ ผนังโพรงไซนัสบวมหนา รักษาเป็นเวลา 2-3 เดือนไม่ดีขึ้นเลย จนเดือนก.พ.55 ตรวจเป็นครั้งที่ 2 พบก้อนเนื้อขนาด 3 x 5 ซ.ม.ที่หลังโพรงจมูก ผลตรวจชิ้นเนื้อ และ MRI ระบุชัดว่าเป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก ปลายมี.ค.55 เริ่มทำเคมีบำบัดร่วมกับฉายรังสีทุกวัน พร้อมๆกับพี่ชายแนะนำให้ดูแลภูมิคุ้มกันร่วมด้วยทันที หลังจากเคมีเข็มที่ 1 มีอาการข้างเคียงคือ อ่อนเพลีย อาเจียน ท้องเสีย ปวดเมื่อย เดินแล้วปวดขาอยู่ 5 วัน แต่ต่อมาหลังจากเคมีเข็มที่ 2-6 อาการดังกล่าวกลับลดน้อยลง ไม่มีท้องเสีย ไม่อาเจียน ปวดเมื่อยลดลง แต่น้ำหนักตัวขึ้น หลังจากฉายรังสี 15 ครั้ง โพรงจมูก และคอไหม้ ทานข้าวไม่ได้ ทานได้แต่น้ำผลไม้ หรืออาหารเหลว น้ำหนักตัวลดลง แต่ร่างกายไม่เหนื่อยไม่เพลียมาก อาบน้ำแต่งตัว เดิน และช่วยเหลือตัวเองได้ แม้ภายหลังต้องทำเคมีชุดที่ 2 เพิ่มเติมอีก กลับไม่มีอาการข้างเคียงอะไรรุนแรง เดือนส.ค.55 กลับมาทานอาหารได้ปกติ น้ำหนักเริ่มขึ้น ใส่วิกผมแล้วยิ้มๆเดินไปไหนมาไหนก็ไม่มีใครรู้ว่าเป็นมะเร็ง เดือนธ.ค.55 ผลตรวจ MRI ยืนยันว่าไม่พบมะเร็งแล้ว ล่าสุดผลตรวจ 20 มี.ค. 56 ยังคงปกติดีค่ะ
คุณพรรณี ปิยะรัตน์ ผู้มีปัญหาช็อกโกแลตซีสที่มดลูก และพบความผิดปกติของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
เดือนเม.ย.ปี 53 ตรวจสุขภาพประจำปี และอัลตราซาวด์ พบช็อกโกแลตซีสที่รังไข่ข้างขวา 2 จุด ไม่เคยมีประวัติปวดท้องประจำเดือนมาก่อน และหมดประจำเดือนมาแล้ว 3 ปี มีคำแนะนำว่าให้ตรวจซ้ำอีกในปีถัดไป เพราะจุดยังไม่ใหญ่มาก ต่อมาวันที่ 18 มิ.ย. 54 ได้ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap smear) ผลออกมาว่าพบเซลล์ที่มีความผิดปกติเกิดขึ้น ยิ่งทำให้กระวนกระวายใจเป็นอย่างมาก กลัวต้องตัดมดลูกทิ้ง พอดีมีเพื่อนมาแนะนำให้ *BIM ตั้งแต่กลางปี 54 ต่อมาวันที่ 23 พ.ค. 55 ผลตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องกลับไม่พบช็อกโกแลตซีสที่รังไข่ และวันที่ 24 พ.ย. 55 ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกซ้ำอีกครั้ง ผลคือไม่พบความผิดปกติเกี่ยวกับมะเร็งปากมดลูกแล้วเช่นกัน และล่าสุดเมื่อวันที่ 14 พ.ค. 56 ผลตรวจอัลตราซาวด์ช่องท้องยังคงยืนยันไม่พบช็อกโกแลตซีสติดต่อกันเป็นปีที่ 2 และไม่พบอาการผิดปกติใดๆในมดลูก รู้สึกดีใจมากหมดห่วงเสียที และ 2 ปีที่ *BIM อาการปวดมวนในท้อง ท้องอืดท้องเฟ้อที่เคยเป็นบ่อยๆก็ไม่มี ไม่เป็นหวัด ไม่เจ็บคอค่ะ
คุณกิ่งแก้ว หิรัญตระการ ผู้มีปัญหาเนื้องอกที่มดลูก
ตั้งแต่ปี 45 เริ่มปวดประจำเดือนมาตลอดทุกเดือน แรกๆพอทนปวดได้ แต่ระยะหลังปวดมากขึ้นเรื่อยๆจนต้องทานยาแก้ปวด พอมาเดือน ธ.ค.ปี 49 ประจำเดือนมาเยอะมากไม่ยอมหยุด เสียเลือดมากตัวซีดต้องเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 4-5 วันในเดือนม.ค.50 ผลตรวจอุลตราซาวนด์พบเนื้องอกที่มดลูก 1 ก้อนขนาด 6-7 ซ.ม. แต่ไม่ใช่เนื้อร้าย หลังจากนั้นทุกๆปีต้องไปตรวจเพื่อดูว่าเป็นเนื้อร้ายหรือไม่ จนกระทั่งพ.ค.ปี 55 ลูกสาวแนะนำให้ดูแลภูมิคุ้มกันให้สมดุลอยู่ 3 เดือน ต่อมาวันที่ 10 ส.ค.55 ไปตรวจอุลตราซาวนด์ ผลตรวจกลับไม่พบเนื้องอกแล้ว อีกทั้งล่าสุดวันที่ 11 เม.ย. 56 ผลตรวจยังคงไม่พบเนื้องอกเหมือนเดิม ทุกวันนี้ดูแลภูมิคุ้มกันให้สมดุลเข้าเดือนที่ 11 แล้วค่ะ
คุณใบไผ่ ภูมาศ ผู้มีปัญหาก้อนเนื้อที่ทรวงอก
แต่ก่อนเคยคลำพบก้อนเนื้อที่ทรวงอกข้างขวาและได้ตัดทิ้งไป หลังจากนั้นเพียงเดือนกว่าๆ ก็คลำพบก้อนเนื้อที่ทรวงอกข้างซ้าย จึงไปตัดออกอีกครั้งหนึ่ง ต่อมาอีกเพียงเดือนกว่าๆเช่นกันก็คลำพบก้อนเนื้อที่ทรวงอกด้านขวาอีกซึ่งไม่ใช่ตำแหน่งเดิม และได้ไปตัดออก รวมแล้วเคยตัดก้อนเนื้อที่ทรวงอกไปทั้งหมด 3 ครั้ง พอดีคุณเหมี่ยวแนะนำ BIM100 ให้รู้จัก จนตอนนี้ตั้งแต่ BIM มา 4-5 เดือนแล้ว ก็ยังคลำไม่พบก้อนเนื้อค่ะ
คุณเตือนจิต อาจพงษา ผู้มีปัญหามะเร็งต่อมไทรอยด์
เดือนมี.ค. 55 มีตุ่มแดงเป็นจุดๆดูน่ากลัวขึ้นตามตัวตามขาหลายตุ่ม และมีความรู้สึกชา เมื่อไปตรวจ MRI พบว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ ได้รับการผ่าตัดเมื่อ 10 พ.ค.55 และทราบจากหลานสาวว่าให้ดูแลภูมิคุ้มกันให้สมดุล เพราะเม็ดเลือดขาวจะกำจัดเซลล์มะเร็งได้ จึงตั้งใจดูแลภูมิคุ้มกันให้สมดุลอย่างจริงจังพบว่า แผลผ่าตัดยาว 3 นิ้วที่ลำคอแห้งเร็วดี ได้รับคำชมว่า “ดูแลแผลได้ดี” อีกทั้งคนละแวกบ้านยังบอกว่า “ไปผ่าที่ไหนมาไม่เห็นรอยแผลเลย” ต่อมาต้องไปฉายแสงรอบแรกรวม 30 กว่าครั้ง แต่กลับไม่มีอาการข้างเคียงสักอย่าง ไม่มีอาการปากไหม้ คอไม่แห้ง เสียงไม่แหบ ไม่เจ็บคอ ทานข้าวได้ปกติทานอะไรๆก็อร่อย ใครๆก็แปลกใจ ทำไมคนป่วยทานเก่งจัง? อีก 1-2 เดือนต่อมาแพทย์ยังนัดไปฉายรังสีรอบ 2 อีกก็ยังไม่มีอาการข้างเคียงอะไร แต่ฉายอีกไม่เกิน 10 ครั้ง เพราะอาการดีขึ้นตรวจไม่พบเซลล์มะเร็งแล้ว ขณะที่คนอื่นต้องฉายรังสี 30-40 ครั้ง ต่อมาเดือนม.ค.56 ทำ MRI ผลตรวจยังคงปกติเหมือนเดิมค่ะ
คุณชุติมา ทั่งสุวรรณ์ ผู้มีปัญหามะเร็งเต้านม
ปี 54 บังเอิญหัวเข่ากระแทกถูกเต้านมข้างขวา เจ็บอยู่นานไม่หายสักที เมื่อไปตรวจผลระบุว่าเป็นมะเร็งเต้านมระยะที่ 2 ต่อมาวันที่ 9 ก.ย. 54 ตัดเต้านมข้างขวาออก และเริ่มทำเคมีบำบัดเดือนละ 1 เข็มๆแรกเดือน ต.ค.54 พบอาการข้างเคียง เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ไม่มีแรง ต้องนอกพัก 2-3 วันถึงกลับไปทำงานได้ พอดีมีคนแนะนำให้รู้จัก BIM เดือนถัดมาไปรับเคมีบำบัดเข็มที่ 2 แต่กลับไม่มีอาการข้างเคียงอะไร วันรุ่งขึ้นกลับไปทำงานต่อได้ทันที อีก 2-3เดือนต่อมาเส้นผมขึ้นไว ไปตัดออก 2 รอบแล้ว ขณะที่คนอื่นๆที่รับเคมีบำบัดพร้อมกัน เส้นผมยังหรอมแหรมอยู่เลย และสามารถรับเคมีบำบัดจนครบ 6 เข็มโดยไม่มีอาการข้างเคียงค่ะ และตลอด 1 ปีที่ผ่านมาผลตรวจมะเร็งยังคงปกติดี พอมาเดือน เม.ย.56 ระคายเคืองคอ ไอเป็นเลือด ผลเอกซเรย์พบปอดมีจุดๆผิดปกติ สงสัยว่าจะอักเสบจึงเริ่มกลับมา BIM ใหม่ อีก 1 สัปดาห์กลับไปตรวจซ้ำอีกครั้ง กลับไม่พบจุดๆในปอดแล้วค่ะ